การกรองน้ำที่ดี ช่วยให้ น้ำใส ปลาสุขภาพดี และลดการเกิดโรค ได้อย่างมาก วัสดุกรองมีหลายประเภท และแต่ละชนิดมีหน้าที่ต่างกันไป โดยสามารถแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่:
(กรองสิ่งสกปรกขนาดใหญ่)
ใช้เป็นขั้นตอนแรกของระบบกรอง เพื่อดักจับสิ่งสกปรกที่มีขนาดใหญ่ เช่น เศษอาหาร ขี้ปลา ตะไคร่น้ำ
🔹 แปรงกรอง (Filter Brush)
▪ วางแนวตั้งในถังกรอง ดักเศษได้ดี
▪ ทำความสะอาดง่าย อายุการใช้งานนาน
🔹 ตะแกรงสแตนเลส / ตะแกรงพลาสติก
▪ ใช้กรองเบื้องต้นก่อนเข้าสู่วัสดุกรองขั้นต่อไป
(ช่วยให้น้ำใส)
กรองฝุ่นตะกอนเล็ก ๆ ที่ผ่านจากชั้นกรองหยาบ ทำให้น้ำใสขึ้นอย่างชัดเจน
🔸 ใยแก้ว / ใยกรองขาว
▪ ดักตะกอนเล็กได้ดี
▪ ต้องล้างหรือเปลี่ยนบ่อย
▪ วางเป็นชั้นบนของวัสดุกรอง
🔸 ฟองน้ำกรอง (โฟมกรอง)
▪ มีหลายระดับรูพรุน (หยาบ-ละเอียด)
▪ ใช้ซ้ำได้ ทนทาน
(สร้างแบคทีเรียดี ช่วยย่อยของเสีย)
หัวใจของระบบกรองที่มีประสิทธิภาพ วัสดุเหล่านี้เป็นที่อยู่อาศัยของแบคทีเรียดีที่ช่วยกำจัดแอมโมเนียและของเสียจากปลา
🌿 หินพัมมิส (Pumice)
▪ ราคาย่อมเยา พื้นที่ผิวมาก
▪ เหมาะกับการเจริญของแบคทีเรีย
▪ ควรล้างก่อนใช้เพราะมีฝุ่นเยอะ
🌋 หินภูเขาไฟ / หินแมงกานีส
▪ ช่วยดูดซับสารพิษบางชนิด
🌀 เซรามิคริง (Bio Ring)
▪ มีรูพรุนสูง เป็นที่อยู่ของแบคทีเรียดี
▪ ใช้งานได้นานหลายปี
🔵 Japanese Mat (ญี่ปุ่นแมท)
▪ วัสดุกรองชีวภาพยอดนิยม
▪ แบคทีเรียเกาะดี ล้างง่าย อายุการใช้งานยาวนาน
⚙️ ลูกมีเดีย (K1/K3 Media)
▪ ใช้ในระบบกรองแบบเคลื่อนไหว (Moving Bed)
▪ เพิ่มออกซิเจน และส่งเสริมการเติบโตของแบคทีเรียได้ดีมาก
เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการกรอง ควรจัดเรียงวัสดุกรองอย่างเป็นระบบดังนี้:
ช่องที่ 1: แปรงกรอง + ตะแกรง (กรองหยาบ)
ช่องที่ 2: ฟองน้ำ + ใยแก้ว (กรองละเอียด)
ช่องที่ 3: หินพัมมิส + Bio Ring (กรองชีวภาพ)
ช่องที่ 4: Japanese Mat / K1 Media (กรองชีวภาพเคลื่อนไหว พร้อมปั๊มลม)